Tuesday, February 13, 2007

"กาลครั้งหนึ่ง...........ความรัก" --- ที่ตรงนี้

ฉันนั่ง ยืน เดิน นอน และหายใจอยู่ตรงนี้นานแล้ว บางทีมันนานเกินไปจนทำให้ก้นเกิดความรู้สึกชา และอาจมีปัญหาเป็นแผลกดทับตามมาภายหลังได้ ทว่า ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลายหรือน้ำป่าไหลหลากทะลักทะล้นเข้ามาตอนนี้ ฉันก็ไม่สามารถลุกไปจากที่ตรงนี้ง่ายๆแน่นอน

ที่ตรงนี้คือที่ไหน --- ฉันยังสงสัยอยู่

เหลียวซ้ายแลขวามองหน้าหันหลัง ฉันไม่พบป้ายบอกชื่อของที่ตรงนี้ปรากฏอยู่ บางทีมันอาจซ่อนตัวอยู่ตรงไหนสักแห่งในบริเวณใกล้ๆ หรือไม่ก็มีคนจัญไรปลดป้ายออกไปแล้วกระทืบซ้ำตามประสาคนนิสัยระยำชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือไม่มันก็อาจไม่มีป้ายที่ว่านั้นมาตั้งแต่แรกแล้ว

ที่ตรงนี้คือที่ไหน --- ฉันยังสงสัยอยู่

ผู้คนรอบกายที่อยู่ในขอบข่ายของสายตาฉัน บางคนคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอกันเมื่อชาติปางก่อน มันอาจจะนานเกินไป และได้หลุดหายไปจากความทรงจำ บางคนก็คุ้นหน้าหนักเข้าไปใหญ่ คาดว่าจะเกิดมาและเจอกันในชาติเดียวกันนี้ อาจนานสู้บางคนของบรรทัดบนไม่ได้ แต่ว่าไม่ได้ไปไหนจากความทรงจำ และบางคนก็คาดว่าไม่เคยพบกันมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทุกคนดูจะไม่สนใจในการมีอยู่ของฉันเลย

ที่ตรงนี้คือที่ไหน --- ฉันยังสงสัยอยู่

และแล้วขาซ้ายของฉันเริ่มก้าว ตามด้วยเท้าขวาในไม่กี่อีกอึดใจ ฉันยังไม่รู้จุดหมายของการก้าวไปในครั้งนี้ แม้ไม่รู้อะไรเลยแต่ดูเหมือนว่าเท้าและขากำลังพาฉันก้าวเดิน ภายใต้อำนาจนอกเหนือการควบคุมของจิตใจ เหมือนว่ามีใครสักคนสั่งให้เดินโดยฉันไม่ได้ขัดขืน ไม่ฝืนใจ แต่ก็ไม่ได้เต็มใจ แม้ไม่เข้าใจในสิ่งที่ทำ ฉันก็ยังทำมันต่อไป แม้จะเกิดคำถามมากมายในหัวตอนนี้ แต่คำถามไหนก็ไม่เท่ากับคำถามเดิม ซึ่งเป็นคำถามแรก

ที่ตรงนี้คือที่ไหน --- ฉันยังสงสัยอยู่

ไม่มีสิ่งใดหยุดเคลื่อนไหว ณ ที่ตรงนี้ ดังนั้นจึงไม่แปลก ที่เวลาจะทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ ดูแล้วไม่มีที่ท่าว่าจะพักผ่อนสักวินาทีด้วยซ้ำ ฉันเป็นสิ่งหนึ่งและสิ่งเดียวที่หยุดเคลื่อนไหว หลังจากที่เดินมานานและพบว่าตัวเองเดินวนอยู่ตรงที่เก่า ไม่ได้หลุดพ้นไปไหนอย่างใครเค้าสักที ทันทีที่ฉันหยุดนิ่ง ทุกสิ่ง ณ ที่ตรงนี้ เปลี่ยนโหมดจากภาพความละเอียดชัดเจนเป็นความละเอียดต่ำถึงขั้นเลือนราง ทุกอย่างรอบตัวที่มัวเบลอส่งเสริมให้สิ่งหนึ่งโดดเด่นขึ้นมา มันเป็นสิ่งหนึ่งและสิ่งเดียวที่ชัดเจน แตกต่างจากสิ่งรอบข้างที่เคียงกันอยู่ ฉันขยี้ตาสองสามทีก่อนเบิ่งมันขึ้นให้โตกว่าปกติ เพื่อมองป้ายขนาดใหญ่ตรงหน้าที่เดาเอาว่ามันไม่ใช่ป้ายบอกทาง เพราะไม่มีลูกศรชี้ไปทางไหนให้เดินตาม ตัวอักษรบนป้ายเล็กกว่าขนาดป้ายไม่เท่าไหร่ ทำให้ฉันเห็นคำที่เขียนอยู่บนนั้นได้อย่างชัดเจน

"หลุมรัก"

ที่ตรงนี้คือที่ไหน --- ฉันเริ่มคลายความสงสัย และยังไม่ได้ตัดสินใจจะเดินต่อไปที่อื่นแต่อย่างใด


(โปรดติดตามตอนต่อไป)


"สิสิร"